วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Hacer แปลว่า "ทำ" แต่เราใช้ทำอย่างอื่นได้อีก "เยอะ"

Hacer (อ่ะแซร์) นั้น นอกจากจะแปลว่า "ทำ" แล้ว ยังสามารถนำมาใช้แบบ impersonal หรือไม่ผันตามประธานได้เป็นสำนวนที่หลากหลาย (เพราะไม่มีประธานในประโยค) โดยผันเป็น él เสมอ (สรรพนามบุรุษที่สาม เอกพจน์ เทียบกับภาษาอังกฤษคือ he) เช่น

บรรยายสภาพอากาศในเวลาปัจจุบัน

Hace frío                    อ่ะแซร์ ฟรี๊โอ่ะ                    อากาศหนาว
Hace calor                  อ่ะแซร์ กะโลร์                    อากาศร้อน
Hace sol                     อ่ะแซร์ โซล                        แดดออก
Hace fresco                อ่ะแซร์ เฟรซโก่ะ                อากาศเย็นสดชื่น
Hace viento                อ่ะแซร์ เบี้ยนโต่ะ               มีลมพัด
Hace buen tiempo      อ่ะแซร์ บัวเอน เตี๊ยมโป่ะ   อากาศดี
Hace mal tiempo        อ่ะแซร์ มาล เตี๊ยมโป่ะ       อากาศไม่ดี
Hace ruido                 อ่ะแซร์ รุอิ๊โด่ะ                    มีเสียงรบกวน

*คำที่ขีดเส้นใต้คือให้ออกเสียงรวมเป็นพยางค์เดียว

*ถ้าต้องการบรรยายสภาพอากาศในอดีตให้เปลี่ยนคำว่า hace (อ่ะแซร์) เป็น hacía (อ่ะเซี้ย) ก็พอค่ะ

นอกจากนั้นยังสามารถนำมาใช้เป็นคำประเภทอื่นนอกเหนือจากกิริยาได้อีก เช่น

Hace 2 años               อ่ะแซร์ โดส อ๊าโหย่ส      เป็นเวลา 2 ปีมาแล้ว
(เทียบได้กับคำวิเศษณ์ (adverb) ago ในภาษาอังกฤษนั่นเอง การกระทำที่อ้างถึงจึงมักเป็น pretérito หรือ past simple tense)

Correr hacía ti.           โกแรร์ อ่ะเซี้ย ติ๊              วิ่งไปหาเธอ
(เทียบได้กับคำบุพบท (preposition) forwards ในภาษาอังกฤษนั่นเอง)



ขอบคุณแหล่งความรู้ หนังสือ "Gramática Española ไวยากรณ์สเปน" โดย อาจารย์รัศมี กฤษณมิษ, อาจารย์วิภาดา เพ็ชรรักษ์ และอาจารย์สถาพร ทิพยศักดิ์ คณาจารย์ผู้สอนภาษาสเปน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โปรโมชั่นขอบคุณลูกค้า กี่คนก็สอน เดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น!



คลิกภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
หรือคลิกดูรายละเอียดที่ หน้า cover ของ  https://www.facebook.com/aveysol ได้เลยค่ะ

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

¿Dónde ___ corazón? หัวใจหรืออะไรอยู่ที่ไหน??

มีเพลงภาษาสเปนสองเพลงที่ดังมากและมีชื่อคล้ายกันจึงเคยสร้างความสับสนให้คนที่เพิ่งเรียนภาษาสเปนใหม่ๆ คือ เพลง ¿Dónde estás corazón? ของ Shakira ที่เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ.1995) กับ ¿Dónde están corazón? ของ Enrique Iglesias ที่เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ.2009)

dónde      (ด๊อนเด่ะ)       แปลว่า ที่ไหน
estar         (เอสตาร์)      เป็นกิริยาของภาษาสเปนที่เปรียบเทียบได้กับ verb to be 
                                  "เป็น อยู่ คือ" ของภาษาอังกฤษ 
corazón    (กอราซอน)   แปลว่า หัวใจ

อย่างไรก็ตาม ในภาษาสเปนนั้นมี verb to be 2 คำ คือ ser กับ estar
estar เป็น verb to be ที่ใช้ในการบอกที่อยู่ กับสถานภาพชั่วคราว ในขณะที่ ser ใช้บอกสถานะที่ได้มาตามธรรมชาติ

วันนี้ขอพูดถึงแค่ estar ก่อน ตามชื่อเพลง
การผัน estar นั้น ผันในปัจจุบันกาลตามประธาน 8 ตัว (แต่ผัน 6 แบบ) ได้ดังนี้

ฉันอยู่                                   yo                estoy          (โย เอ่สโตย)                        
เธออยู่                                  tu                 estás           (ตู เอ่สต๊าส)                      
ท่านอยู่                                 usted           está             (อุสเต๊ด เอ่สต๊ะ)        
เขาอยู่, หล่อนอยู่                  él, ella         está             (เอล เอ่สต๊ะ, เอยย่ะ เอ่สต๊ะ)

พวกเราอยู่                            nosotros      estamos      (โน่โซ้โตร่ส เอ่สต๊ะโหม่ส)
พวกเธออยู่                           vosotros      estáis           (โบ่โซ้โตร่ส เอ่สต๊ะอีส)
พวกท่านอยู่                          ustedes       están            (อุสเต้ดเด่ส เอ่สตัน)
พวกเขาอยู่, พวกหล่อนอยู่    ellos, ellas  están            (เอยโหย่ส เอ่สตัน, เอยหย่าส เอ่สตัน)

เช่น

 ฉันอยู่ที่บ้าน                (Yo) Estoy en casa.                  (โย เอ่สโตย เอ็น ก๊าซ่ะ)
       * ภาษาสเปนจะชอบละประธานที่เป็นสรรพนาม เพราะถือว่าก็เห็นอยู่แล้วว่ากิริยาผันตามใคร

เด็กๆ อยู่ที่โรงเรียน     Los niños están en la escuela.   (โหล่ส นิ้นโญ่ส เอสตัน เอ็น ลา เอสเกว้หล่ะ)

ทีนี้เราก็กลับมาที่เพลงกัน

เมื่อ estás ในเพลง ¿Dónde estás corazón? ของ Shakira นี้ ผันตาม "เธอ" จึงหมายความว่า "หัวใจจ๋า เธออยู่ที่ไหน" เพลงนี้ในช่วงเวลานั้นโด่งดังเอามากๆ เห็นได้ถึงความมีเอกลักษณ์ในการแต่งเพลงของเธอและสิ่งที่เธอทุ่มเทให้ เนื้อเพลงมีอยู่ว่า "เธออยู่ที่ไหนกันหัวใจ ฉันมองหาไปทั้งฟ้าทั้งดิน ฉันตามหาเธอไปทั่ว และสุดท้ายฉันก็พบว่า เธออยู่ในบทเพลงของฉันเอง" 

บทเพลงอย่างไหนกันนะที่เราใช้เรียกหาหัวใจของเราเอง และพบในที่สุดว่าสิ่งที่เราอยากทุ่มเทชีวิตให้เป็นอะไร ลองตามลิงค์ไปฟังกันเลย



ในขณะเดียวกัน están ในเพลง ¿Dónde están corazón? ของ Enrique Iglesias นั้นผันตาม "พวกเขา" จึงเป็นการถาม "หัวใจ" ว่า "สิ่งต่างๆ ที่เราเคยมียามที่เรารักกันนั้นมันจากไปไหนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มของเธอที่ทำให้ฉันโบยบินได้ และความสุขในหัวใจเธอ หรือมันจากไปเหมือนทุกสิ่งที่จากไป เหมือนแม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเล" เศร้าจัง จะเศร้าขนาดไหนนั้น ไปฟังกันเลย ว่าแต่มิวสิกของ Enrique จะเน้นเซ็กซี่หน่อยนะ ฮ่ะๆๆ


ร่ายซะยาวเชียว กับกิริยาตัวเดียวที่ผันตามประธานสองตัวในเพลงสองเพลง
 แต่ภาษาคือสิ่งนี้ค่ะ คือสุนทรียภาพ และการเข้าใจด้วยจิตวิญญาณ

นั่น... จัดเต็ม ^^

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

Los días de la semana วันในหนึ่งสัปดาห์ในภาษาสเปน

ตั้งใจจะเขียนเรื่องของดีของประเทศที่พูดภาษาสเปน แต่เปลี่ยนใจมาเขียนเรื่องวันในหนึ่งสัปดาห์ในภาษาสเปนแทน เหตุว่า นักเรียนคนนึงถามว่า ทำไมวันจันทร์-ศุกร์ในภาษาสเปนลงท้ายด้วย -es แต่เสาร์-อาทิตย์ลงท้ายด้วย -o อาจารย์จนปัญญาตอนสอน แต่คิดว่าน่าสนใจมาก ก็เลยไปตามหาคำตอบมาให้ แล้วก็เอามาโพสต่อด้วยเลย ^^

คำว่า วัน "día" ในภาษาสเปนนั้นเป็นเพศชาย วันทั้งหลายในภาษาสเปนจึงเป็นเพศชาย มี article "el" ตามหน้ากรณีเป็นวันเดียวหรือหมายถึงวันนั้นในสัปดาห์นั้น และ "los" นำหน้า กรณีหมายถึงทุกวันนั้นของแต่ละสัปดาห์

วันจันทร์             el lunes            (เอล ลู้เน่ส)
วันอังคาร            el martes         (เอล ม้ารฺเต่ส)
วันพุธ                 el miércoles     (เอล มิเอ๊รฺโกเล่ส)
วันพฤหัสบดี        el jueves          (เอล ฮุเอ๊เบ่ส)
วันศุกร์                el viernes         (เอล เบี้ยรฺเนส)
มาจากภาษาละตินที่แปลว่า วันของดวงจันทร์ วันของดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัส และดาวศุกร์ ตามลำดับเหมือนของเราเลย

ส่วนวันเสาร์         el sábado         (เอล ซ๊าบ่ะโด่)             มีที่มาจากคัมภีร์ไบเบิล มาจากภาษาฮีบรูหรือภาษายิวโบราณว่า "sabbat" อันแปลว่า วันแห่งการพักผ่อน (el día de descanso) คือวันที่พระเจ้าทางพักหลังจากการสร้างโลกเสร็จแล้วนั่นเอง 

วันอาทิตย์           el domingo       (เอล โด่มิ้งโก่)             ไม่เหมือนใคร มาจากภาษาละติน แปลว่า วันแห่งพระเจ้า (el día del señor) โดยมีที่มาจากจักรพรรดิ์โรมันชื่อ Constantino ที่บูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ "Mitra" คืนหนึ่งองค์จักรพรรดิ์ทรงฝันว่าเห็นไม้กางเขนบนดวงอาทิตย์มีคำว่า "ชนะด้วยสิ่งนี้" พอตื่นมาก็ประกาศให้วันนั้นเป็นวันแห่งพระเจ้า และห้ามประชาชนทำงานในวันนั้น

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ กรณีใช้ในรูปพหุพจน์เพื่อหมายความถึงทุกวันนั้นๆ ในแต่ละสัปดาห์ วันจันทร์ถึงศุกร์เปลี่ยนแค่ article "el" เป็น "los" เพราะมี -s เป็นตัวสะกดอยู่ท้ายคำอยู่แล้ว  ส่วนวันเสาร์กับวันอาทิตย์ที่ลงท้ายด้วย -o ให้ใส่ -s เพื่อบอกว่าเป็นพหุพจน์ด้วย จึงได้ว่า 

los lunes      los martes      los miércoles      los jueves      los viernes      los sábados      los domingos

ขอบคุณ http://educacion.uncomo.com/articulo/origen-de-los-nombres-de-los-dias-de-la-semana-3029.html สำหรับข้อมูล และขอบคุณนักเรียนที่ถามค่ะ 

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประเทศไหนใช้ภาษาสเปนบ้าง

เนลสัน มันเดลล่า หรือ แมนดิบา ผู้เป็นที่รักของชาวแอฟริกาใต้เคยกล่าวว่า 


"If you talk to a man in a language he understands, that goes to his head.
If you talk to him in his language, that goes to his heart."

"ถ้าคุณพูดกับคนคนหนึ่งด้วยภาษาที่เขาเข้าใจ คุณเข้าถึงหัวเขา 
ถ้าคุณพูดกับเขาด้วยภาษาของเขา คุณเข้าถึงใจเขา"



มันเป็นความจริงอย่างที่สุด และจริงมากกว่านั้นก็คือ ยามไปต่างประเทศ หากเราสามารถใช้ภาษาของเขาได้ เราจะมีเปอร์เซนต์ถูกหลอกและถูกโก่งราคาน้อยกว่าสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นไหนๆ 



ว่าแต่ประเทศอะไรบ้างที่ใช้ภาษาสเปนกันทั่วไป มาเปรียบเทียบชื่อของประเทศเหล่านั้นในภาษาสเปนกับภาษาอังกฤษกันค่ะ 
(ประเทศที่มี * หมายถึงว่า ในประเทศนั้นๆ ไม่ถือเป็นภาษาราชการนะคะ

ขอบคุณภาพจาก http://blog.myheritage.com/ ค่ะ 
Gracias al http://blog.myheritage.com/ por el imagen.

ทวีปยุโรป
España                      Spain
Andorra*                   Andorra                   (ภาษากาตาลันเป็นภาษาราชการ)
Gibraltar*                 Gibraltar                 (ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ)

ทวีปแอฟริกา
Guinea Ecuatorial       Equatorial Guinea
Sahara Occidental*     Western Sahara       (ภาษา Berber และภาษา Hassaniya เป็นภาษาราชการ) 

ทวีปอเมริกาเหนือ
Los Estados Unidos*    The United States of America         (ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ)
Canadá*                      Canada                  (ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ)
México                        Mexico

ทวีปอเมริกากลางและแถบทะเลแคริเบียน
Belice*                               Belize              (ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ)
Guatemala                         Guatemala
Cuba                                 Cuba
Honduras                          Honduras
El Salvador                        El Salvador
Costa Rica                         Costa Rica
Panamá                             Panama
República Dominicana       Dominican Republic
Nicaragua                          Nicaragua
Puerto Rico                        Puerto Rico      (ใช้ทั้งภาษาสเปนและภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ)

ทวีปอเมริกาใต้
Ecuador                     Ecuador
Colombia                  Colombia
Perú                          Peru
Venezuela                 Venezuela
Bolivia                       Bolivia
Paraguay                   Paraguay
Argentina                  Argentina
Chile                         Chile
Uruguay                    Uruguay

สรุปจำนวนได้ว่าบนโลกนี้ เรามี 
ประเทศที่ใช้ภาษาสเปนกันทั่วไป 27 ประเทศ ใน 3 ทวีป
ในจำนวนนี้ มีประเทศที่ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการทั้งหมด 21 ประเทศ 
คำนวนเป็นจำนวนประชากรโลกประมาณ 410 ล้านคนที่พูดภาษาสเปนเป็นภาษาแม่ และประมาณอีก 60 ล้านคนพูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่สอง ภาษาสเปนจึงถือเป็นภาษาที่สำคัญอันดับสามของโลกรองมาจากภาษาอังกฤษและภาษาจีน
(ข้อมูลจากปี 2010 ขอบคุณข้อมูลจาก en.Wikipedia.org ค่ะ) 

ว่าแต่ประเทศไหนมีอะไรดังบ้าง เดี๋ยวคราวหน้ากลับมาเฉลยค่ะ 

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ป้ายต่างๆ ในภาษาสเปน

ป้ายเหล่านี้สามารถเห็นได้ทั่วไปตามถนนหนทาง สถานที่สาธารณะ ร้านอาหาร และโรงแรม มันหมายความว่าอย่างไรบ้าง จะได้ไม่เหวอเวลาเขาบอกว่า "ก็ติดป้ายไว้แล้วนะ"
* พยางค์ที่ขี้เส้นใต้ หมายความว่าลงเสียงหนัก และ
   พยางค์ที่เป็นตัวเอน ออกเสียงเป็นพยางค์เดียวนะคะ

SUBIR   (สุบีร) = ขึ้น
BAJAR   (บ่าฮาร์) = ลง

EMPUJAR  (เอ็มปุฮาร์) = ผลัก
TIRAR   (ติราร) = ดึง

ABIERTO   (อ่ะเบี้ยระโต่ะ) = เปิด
CERRADO   (เซรร้าโด่ะ) = ปิด

ENTRADA  (เอ็นตร้าด่ะ) = ทางเข้า
SALIDA   (ส่ะลี้ด่ะ) = ทางออก
ENTRADA PROHIBIDA   (เอ็นตร้าด่ะ โปรอิบิ๊ด่ะ) = ห้ามเข้า
PUERTA DE INCENDIOS  (ปุเอ้รต่ะ เด อินเซนดิ๊โอ่ะ) = ประตูหนีไฟ

HORARIO   (ออร้าริโอ่ะ) = ตารางเวลา
MAPA  (มัปป่ะ) = แผนที่
OFICINA DE TURISMO  (อฟฟิซิ๊หน่ะ เด ตูริสโม่ะ) = สำนักงาน(บริการนัก)ท่องเที่ยว
CORREOS  (โกเร้โอ่ะ) = ไปรษณีย์
INFORMACION  (อินฟอร์ม่ะซียน) = บริการข้อมูล
RESERVAS  (เรเซ้รบัส) = แผนกจองตั๋ว
SALA DE ESPERA  (ซ้าล่ะ เด เอสเป้หร่ะ) = ห้องพักผู้โดยสาร
LLEGADAS  (เหย่ก้าดัส) = ขาเข้า
SALIDAS  (ส่าลี้ดัส) = ขาออก

BAÑO  (บ้าโหย่ะ) หรือ SERVICIO  (เซรบิ๊ซิโอ่ะ) = ห้องน้ำ
HOMBRES  (อ้อมเบร่ส) หรือ VARONES  (บาร้อนเนส) = สำหรับสุภาพบุรุษ
DAMAS  (ด้าหมัส) หรือ MUJERES (หมู่เฮ้เรส) = สำหรับสุภาพสตรี

FIRME  (ฟี้ระเหม่ะ) = ลงชื่อ